สวัสดีคุณผู้อ่าน CondoNewb ทุกท่านครับ รีวิวคอนโดฉบับนี้ เราพาทุกท่านมาอยู่กันที่ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว คอนโด Low Rise สร้างเสร็จพร้อมอยู่ สไตล์ Classic Heritage ห่างจาก MRT ลาดพร้าวเพียง 25 เมตร ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท จาก Origin Property ซึ่งในรีวิวฉบับนี้ เป็นรีวิวที่ทาง CondoNewb ได้ไปชมโครงการจริงของ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว มาด้วยตัวเอง และเก็บภาพจริง พร้อมรายละเอียดต่าง ๆ ของโครงการมาฝากกัน เชิญอ่านได้เลยครับ
. . . . . . . . . .
. . . . . . . . . . .
ภาพรวมตัวโครงการ
<Factsheet/>
. . . . . . . . . . .
จุดเด่นที่ตั้งโครงการ
ที่อยู่ : ซอยลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
แผนที่ Google Map : https://goo.gl/maps/jGdudkUydEqAuJr18

แผนที่โครงการ
ในส่วนของทำเลตัวโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว นั้น ขอเริ่มจากในส่วนของพื้นที่โดยรอบโครงการกันก่อนครับ โดยที่ดินของตัวโครงการนั้น จะตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 23 ซึ่งเป็นที่รู้ดีของคนในย่านนี้ว่า ซอยลาดพร้าว 23 นั้น เป็นซอยที่ลัดเลาะไปออกยังถนนสายต่าง ๆ ที่เป็นถนนสายหลักได้ค่อนข้างมาก

แผนที่โครงการ
จากแผนที่จะเห็นได้ชัดเลยว่า ตัวโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว นั้น สามารถเข้า - ออก ได้จากทางถนนหลักอย่างถนนลาดพร้าว โดยผ่านทางซอยลาดพร้าว 23 อยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดอยากไปออกยังถนนรัชดาภิเษก หรือไปห้าแยกลาดพร้าวโดยที่ไม่ต้องไปกลับรถที่ถนนลาดพร้าว ก็สามารถใช้ซอยรัชดา 30 เพื่อไปออกยังถนนรัชดาภิเษกได้ด้วย
อีกทั้งถนนบริเวณรอบ ๆ โครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว นั้น ยังเป็นเส้นทางเลี่ยงรถติดที่ถูกใช้เป็นเส้นทางสัญจรหลักด้วย โดยไม่ว่าคุณจะอยากไปที่ถนนลาดพร้าว - วังหิน, โชคชัย 4 ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องผ่านถนนที่มีความหนาแน่นสูงอย่างถนนลาดพร้าวด้วยครับ
ทีนี้เราขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด เพื่อที่จะดูในเรื่องของการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนและแหล่งความอุดมสมบูรณ์ เพราะต้องบอกว่าในโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว สองอย่างนี้เป็นสิ่งที่ต้องพูดถึงคู่กันครับ

จริง ๆ จากแผนที่ทั้ง 2 ภาพที่ผมแนบมา จะเห็นเลยว่าตัวโครงการอยู่ค่อนข้างใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าวมาก ๆ ระยะเดินอยู่ที่ประมาณ 25 - 30 เมตร เท่านั้นเอง โดย MRT ลาดพร้าว ก็ถือว่าเป็น MRT ที่จะค่อนข้างคึกคักมากในอนาคตครับ เพราะอีกไม่นาน MRT ลาดพร้าวจะกลายเป็นจุด Interchange ระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีเหลือง สำโรง - ลาดพร้าวครับ
ซึ่งในปัจจุบัน พื้นที่บริเวณ MRT ลาดพร้าว ก็เป็นเหมือนห้างสรรพสินค้าขนาดย่อมด้านในแล้วครับ มีทั้ง Gourmet Market ที่เป็นซูเปอร์มาเก็ตด้านใน สามารถซื้อทั้งของกินและของใช้ที่นี่ได้ รวมถึงยังมีร้านอาหารและเบเกอร์รี่อีกหลายร้านให้ได้เลือกซื้อกัน นึกภาพตามถ้าคุณเป็นคนที่ต้องเดินทางไปทำงานด้วยรถไฟฟ้าทุกวัน แล้วขากลับ แวะซื้อของจากสถานี MRT ก่อนจะเดินอีกไม่ถึง 30 เมตรเพื่อกลับโครงการ ก็ถือว่าค่อนข้างสะดวกเลยนะครับ
ส่วนถ้าเกิดใครที่ถามหาแหล่งความอุดมสมบูรณ์อื่น ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ห่างจากตัว MRT ลาดพร้าวเพียง 1 กิโลเมตร จะมี Big C ลาดพร้าว 2 อยู่ และถ้าห่างออกไปเพียงแค่ 1 สถานีรถไฟฟ้า ที่ MRT พหลโยธิน ตรงนี้จะมีเยอะเลยครับ ทั้งจุด Interchange รถไฟฟ้า BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว, Union Mall, Central ลาดพร้าวและโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ดั่งที่เราเห็นในแผนที่เลย และแน่นอน ขยับไปอีกเพียง 1 สถานี ที่ MRT จตุจักร ก็เป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะขนาด 700 ไร่ อย่างสวนจตุจักรด้วย
ก็ถือได้ว่าค่อนข้างครบเลยครับสำหรับทำเลของโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว มีแหล่งจับจ่ายใช้สอยใกล้ ๆ ในระยะเดิน รวมถึงบริเวณรอบ ๆ ในรัศมี 1 - 2 สถานีรถไฟฟ้าก็มีให้เลือกอีกมาก เดินทางสะดวก ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและการขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้กับโครงการก็มีจุด Interchange กับรถไฟฟ้าอีกหลากหลายสาย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากคลิปรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน รวมถึงในทำเลนี้ อนาคตจะมีความคึกคักมาก เมื่อรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง สำโรง - ลาดพร้าวสร้างเสร็จ ย่านนี้จะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะมาก ๆ ครับ
การเดินทาง
- MRT ลาดพร้าว - 250 เมตร
- จุดขึ้น - ลง ทางพิเศษอุตราภิมุข - 2 กม.
- ห้าแยกลาดพร้าว - 2 กม.
- ห้างสรรพสินค้า
- Gourmet Market - 300 เมตร
- สวนลุมไนท์บาซ่าร์ - 500 เมตร
- BIG C ลาดพร้าว 2 / โฮมโปร - 1 กม.
- Union Mall - 1.7 กม.
- Central ลาดพร้าว - 2.4 กม.
- Tesco Lotus ลาดพร้าว - 2.6 กม.
- ตลาดโชคชัย 4 - 2.6 กม.
- Major รัชโยธิน - 2.7 กม.
สถานพยาบาล
- โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 - 3.4 กม.
- โรงพยาบาลเปาโล เกษตร - 3.6 กม.
- โรงพยาบาลวิภาวดี - 5.8 กม.
- สถานศึกษา
- โรงเรียนหอวัง - 2.5 กม.
- มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม - 1.4 กม.
สถานที่สำคัญอื่น ๆ
- SCB Park Plaza - 3 กม.
- สวนจตุจักร - 4 กม.
- ศาลอาญา รัชดา - 1.2 กม.
. . . . . . . . . .
ความน่าสนใจและสิ่งอำนวยความสะดวก
ในช่วงความน่าสนใจและสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว ผมอยากจะเริ่มเล่าจากตัว Concept ของโครงการก่อน ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ผมค่อนข้างชอบ Concept การออกแบบของโครงการนี้พอสมควร
สำหรับโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว โครงการนี้ มาใน Concept ที่ชื่อว่า “Classic Heritage” อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น และสำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ยินคำนี้ จะขออธิบายสั้น ๆ ว่า “Classic Heritage” เป็นสถาปัตยกรรมที่เรามักจะพบเห็นได้ทั่วไปตามขบวนรถไฟ สำหรับผู้โดยสารชั้น 1 หรือผู้โดยสารชั้น First Class นั่นแหละ

รูปจากภาพยนตร์เรื่อง Murder on the Prient Express
ซึ่งถ้าหากใครเคยดูหนังเรื่อง Murder on the Orient Express ที่เป็นคดีฆาตกรรมบนรถไฟและมีผู้ต้องสงสัย 12 คน ที่ผมแนบภาพบางส่วนมาให้ได้ชมกันด้านบน ...นั่นแหละครับ การออกแบบจะประมาณรถไฟที่ใช้เป็นฉากของหนังเรื่องนี้เลย และเราจะสามารถเห็นการออกแบบในสไตล์ Classic Heritage นี้ ได้จากทั่วทุกที่ในโครงการ ซึ่งเดี๋ยวเรามาไล่ดูไปทีละส่วนกันเลยครับ

ด้านหน้าโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว
เริ่มจากภายนอกอาคาร ทางด้านหน้ากันก่อนเลยครับ จะเห็นได้ว่า Theme สีที่ทางโครงการเลือกใช้ จะเป็นสีที่ค่อนข้างออกไปทางวินเทจ และเป็นไปตาม Concept ทุกประการ โดยนอกจากเรื่องของสีแล้ว วัสดุต่าง ๆ ที่ทางโครงการเลือกใช้ ก็ถือว่าค่อนข้างเข้ากันดีครับ ให้อารมณ์หรูหราและเป็นความหรูหราที่ดูอบอุ่น เข้าถึงได้ง่าย


Lobby Hall
และเมื่อเข้ามาถึงด้านใน โครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว ก็ยังคงให้เราดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบ Classic Heritage อย่างต่อเนื่อง พื้นที่บริเวณตรงนี้คือ Lobby Hall ที่จะเปรียบเสมือนส่วนต้อนรับของทั้งลูกบ้านและแขกที่มาพัก ทางโครงการเลือกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่เน้นให้เป็นเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ เป็นโซฟาขนาด 8 - 10 ที่นั่ง วางอยู่ตรงโถงกลางเพดานสูง


CO-WORKING SPACE
โดยพื้นที่ Lobby ของโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว จะไม่ได้มีเพียงเท่านี้ แต่พอเราเดินผ่านตัว Lobby ที่เป็นส่วนเพดานสูงเข้าไป ติดกัน จะเป็นส่วนของพื้นที่ CO-WORKING SPACE ซึ่งจะทำเป็นกึ่ง CO-WORKING SPACE กึ่งพื้นที่นั่ง ซึ่งเป็นส่วนกลางที่เหมาะจะลงมานั่งคุยธุระกับแขกที่ไม่สะดวกใจจะให้ขึ้นไปบนห้อง หรือจะนั่งทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถทำได้ เพราะก็ถือว่ามีความสงบพอสมควร


Mail Room และ โถงลิฟต์
และนอกจากนี้ก็ยังมีส่วนของโถงลิฟต์โดยสารจำนวน 2 ตัว และ Mail Room ที่อยู่ติดกับบันไดทางขึ้นชั้น 2 ซึ่งจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักด้วย

บันไดขึ้นชั้นสอง

Lobby Hall
ซึ่งถ้าหากขึ้นบันไดแล้วมองกลับมาที่โถง Lobby จะยิ่งเห็นงานออกแบบของโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว ได้จากมุมสูง ซึ่งเป็นมุมที่ค่อนข้างสวย และผมมองว่าตรงนี้ เวลาที่ลูกบ้านลงมาจากพื้นที่ส่วนกลาง จะให้อารมณ์เหมือนเราเดินลงมาจากบันไดหลักกลางบ้าน ที่เคยเห็นกันในละคร เป็นมุมที่แปลกดีและไม่เป็นมุมที่มีทุกคอนโดอย่างแน่นอน

โถงลิฟต์ชั้นสอง
ซึ่งเมื่อเราเดินพ้นบันไดมา เราจะเจอกับโถงลิฟต์ ที่หน้าตาเหมือนชั้น Ground Floor ทุกประการ ซึ่งบริเวณโถงลิฟต์ส่วนนี้ ก็สามารถเดินทะลุไปยังยูนิตพักอาศัยชั้น 2 ได้ด้วย

Lounge
แต่เราจะยังไม่พาทุกคนไปดูห้องตัวอย่างกันในตอนนี้ เพราะอย่างที่ได้บอกไปว่าชั้นที่ 2 จะเป็นส่วนของพื้นที่ส่วนกลางหลักในโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว ซึ่ง Highlight หลัก ของพื้นที่ส่วนกลางในชั้นนี้ ผมขอยกให้ Lounge นี้ครับ

Lounge
คุณยังจำ Concept ของตัวโครงการได้ใช่ไหมครับ ผมลืมบอกไปว่า เราจะเห็นความ Classic Heritage แบบนี้ แทบจะทุก ๆ ที่ในโครงการเลย ซึ่งอย่างแรกที่ทำให้ผมสะดุดตามาก ๆ เมื่อเข้ามาใน Lounge นี้ คือ เพดานของ Lounge ที่เป็นเพดานสูง แบบเดียวกับใน Lobby เลยครับ

Lounge
นอกจากนี้ เรื่องการตกแต่งก็เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของพื้นที่ส่วนกลางตรงนี้ เราจะเห็นรายละเอียดที่ทางโครงการใส่มา ไม่ว่าจะเป็นการวางโซฟาขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ รองรับการใช้งานได้หลายคน การใส่งานศิลปะต่าง ๆ บนผนัง

Lounge
อีกทั้งด้านบนเพดาน ยังทำเป็น Chandelier ขนาดใหญ่ เต็มพื้นที่ของเพดานเอาไว้ด้วย เวลาเปิดใช้งาน สวยมาก ๆ ครับ

Lounge
จริง ๆ พื้นที่ส่วนกลางยังมีบริเวณด้านนอกอีกในชั้นเดียวกัน ที่ทางโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว ทำไว้ เราจะเห็นสระว่ายน้ำอยู่แว๊บ ๆ แต่เราจะยังไม่พาไปตรงนั้น เพราะจริง ๆ แล้ว จาก Lounge เราสามารถเดินเชื่อมต่อขึ้นไปยังพื้นที่ส่วนกลางชั้น 3 ได้ด้วย

Library Space
เมื่อขึ้นมาถึงชั้นที่ 3 พื้นที่ส่วนกลางส่วนแรก จะเป็นส่วนของ Library Space ซึ่งทางโครงการจะทำเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือเอาไว้ให้ มีการวางชุดโซฟาเข้ามุม ดูท่าทางแล้วนั่งสบายครับ ใครที่ยังอยากได้ความโปร่งจากตัวเพดานของ Lounge ที่สูง แต่ว่าอยากปลีกวิเวกอ่านหนังสือสงบ ๆ หน่อย ตรงนี้เหมาะครับ

Office Supply และ Co - Working Space
จากนั้นพอเราเดินถัดเข้ามา จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยทางโครงการจะทำเป็น Office Supply และ Co - Working Space แบ่งเป็นห้อง ๆ เอาไว้ให้ และห้องทุกห้องก็จะมีประตูบานเลื่อนไว้เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วย ใครที่อยากทำงานจริงจัง พื้นที่ตรงนี้ถือว่าค่อนข้างเหมาะเลยครับ

Meeting Room
ด้านในสุด จะเป็น Meeting Room ครับ โครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว วาง Layout ของพื้นที่ส่วนกลางในชั้นนี้มาค่อนข้างดีเลยนะครับ เป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำงานซะส่วนใหญ่ และมีการกั้นสัดส่วนอย่างเป็นส่วนและสามารถทำงานจริงจัง ใช้สมาธิได้
และก็อย่างที่เห็นครับ ทุกส่วนยังคงออกแบบตกแต่งได้อย่างสวยงามเเละเป็นไปตาม Concept ของโครงการ ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางยังไม่หมดเพียงเท่านี้ครับ เดี๋ยวเราลงไปต่อกันที่ชั้น 2 ซึ่งตรงนี้ยังมีพื้นที่ที่เป็นทั้งกลางแจ้งและในร่มเพิ่มเติมอีกด้านนอกครับ

สระว่ายน้ำ
ขออนุญาตพาทุกคนกลับมาที่ส่วนกลางชั้น 2 ของโครงการ เดินออกจาก Lounge มา จะเจอกับสระว่ายน้ำก่อนเลยครับ ซึ่งสระว่ายน้ำของโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว จะเป็นสระระบบเกลือ ความยาว 20 เมตรครับ ซึ่งทางโครงการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านด้วยการทำแนวต้นไม้บังสายตาด้วย ถือว่าค่อนข้างดีครับ

ซึ่งด้านข้างของตัวสระว่ายน้ำ จะเป็นทางเดินที่จะขึ้นไปใช้งานสระครับ โดยห้องกระจกทางฝั่งขวามือของทางเดิน ก็จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง



Fitness & Yoga Room
ด้านในก็จะเป็นฟิตเนส ซึ่งทางโครงการวางเครื่องออกกำลังกายทั้งแบบคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่งเอาไว้ให้ จำนวนค่อนข้างเพียงพอกับลูกบ้านในโครงการ รวมถึงยังมี Yoga Room อยู่ในบริเวณเดียวกันนี้ด้วยครับ

ลานอเนกประสงค์
จากนั้นเมื่อเราเดินผ่านส่วนที่เป็นฟิตเนสเมื่อสักครู่มา จริง ๆ จะมีห้องน้ำอยู่ด้วยครับ แต่เนื่องจากตอนไปรีวิว ส่วนนี้ทางโครงการยังทำไม่เรียบร้อย เลยขอเลี่ยงไว้ แต่ของจริงก็เป็นห้องน้ำขนาดมาตรฐาน ใช้งานสะดวกครับ ซึ่งผ่านจากห้องน้ำตรงนั้นมา จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางในชั้น 2 เชื่อมกับดาดฟ้าของอาคารจอดรถ และทางโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว ทำเป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบกลางแจ้งทั้งหมดครับ เริ่มตั้งแต่ลานอเนกประสงค์ดังภาพที่แนบมานี้เลย

และถ้าเกิดเรายืนอยู่บนลานอเนกประสงค์แล้วมองย้อนกลับไป จะเห็นภาพรวมของสระว่ายน้ำและพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดครับ

พื้นที่สีเขียว
โดยส่วนกลางในบริเวณเหนืออาคารจอดรถนี้นะครับทางโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว จะเน้นทำเป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับนั่งพักผ่อนครับ โดยในส่วนแรกจะเป็นซุ้มทางเข้า ที่มีพื้นที่นั่งพักผ่อนเอาไว้ให้ด้วย

พื้นที่สีเขียว
จากนั้นนะครับสวนด้านใน ก็จะมีลักษณะเป็นขั้นบันได พร้อมลานพื้นที่สีเขียวเล็ก ๆ มีการวาง Bean Bag เอาไว้ให้นั่งเอนตัวกันได้ด้วย
ก็จะมีเท่านี้ครับสำหรับความน่าสนใจในเรื่องของ Concept โครงการ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในพื้นที่ส่วนกลาง ที่ต้องบอกเลยว่าออกแบบมาได้ค่อนข้างสวย และทำออกมาค่อนข้างหลากหลาย เชื่อเหลือเกินว่าในจำนวนลูกบ้านเพียงแค่ 208 ยูนิต พื้นที่ส่วนกลางขนาดนี้ ถือว่ามาใช้งานกันได้อย่างไม่อึดอัดแน่นอนครับ
. . . . . . . . . .
แปลนโครงการ
ทีนี้ส่วนต่อไปเรามาไล่ดู Floor Plan และพื้นที่ส่วนกลางต่าง ๆ ของตัวโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว กันบ้างนะครับ

จาก G Floor กันก่อนเลยครับ ชั้นนี้นะครับจะเป็นชั้นเริ่มต้นของตัวโครงการ โดยทางด้านซ้ายมือจะเป็นทางเข้าโครงการครับ มีระบบรักษาความปลอดภัยเป็นไม้กระดก จากนั้นถัดเข้ามาจะเป็นจุด Drop - Off และที่จอดรถ Visitor จากนั้นเมื่อเข้ามาด้านใน ก็จะเป็นพื้นที่จอดรถ โดยจะมีทั้งพื้นที่จอดแนวราบปกติ และพื้นที่จอดรถแบบ Auto Parking
ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางในชั้นนี้ จะประกอบด้วย
- VISITOR Lobby Hall
- Sharing Service
- Mail Box & Smart Locker
- Co - Working Space
จากนั้นในส่วนของชั้น 2 ก็จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักและยูนิตพักอาศัย อย่างที่เราได้แนะนำกันไปในตอนต้นแล้วนะครับ โดยยูนิตพักอาศัยในชั้นนี้ ก็จะมีทั้งหมด 29 ยูนิต และพื้นที่ส่วนกลาง จะประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำระบบเหลือ
- Fitness
- Yoga Room

ชั้นที่ 3 ครับก็จะเป็นชั้นที่เชื่อมต่อกันกับพื้นที่ส่วนกลางในชั้นที่ 2 แต่ยูนิตพักอาศัยจะไม่สามารถเดินเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนกลางใด ๆ ได้ครับ จะต้องเป็นการลงไปเชื่อมต่อกันในชั้นที่ 2 เท่านั้น ซึ่งยูนิตพักอาศัยก็จะมีทั้งสิ้น 29 ยูนิต และพื้นที่ส่วนกลางจะประกอบไปด้วย
- Library Space
- Co - Working Space
- Office Supply
- Multi Function Studio ไม่มีฟุต
- Meetingroom
- Rooftop Garden

สำหรับชั้นที่ 4 - 8 ของโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว จะเป็นยูนิตพักอาศัยล้วนครับ โดยจะมียูนิตพักอาศัยทั้งสิ้น 31 ยูนิต ครับ แบ่งเป็น
- 1 Bedroom 24 - 26 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
- 1 Bedroom Standard จำนวน 13 ห้อง
- 1 Bedroom Smart Closet จำนวน 4 ห้อง
- 1 Bedroom Plus จำนวน 10 ห้อง
- 2 Bedroom จำนวน 2 ห้อง

ส่วนนี้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแปลนบริเวณโดยรอบโครงการให้ครับ
- ทิศเหนือ ตัวโครงการจะอยู่ติดกับถนน ก่อนจะเป็นอาคารสูงประมาณ 4 - 5 ชั้น แต่ก็ถือว่าไกลพอสมควรครับ
- ทิศใต้ จะเป็นที่ดินเปล่าและที่อยู่อาศัยแนวราบ ความสูงไม่เกิน 2 - 3 ชั้น
- ทิศตะวันออก ที่อยู่อาศัยแนวราบ ความสูงไม่เกิน 2 - 3 ชั้น
- ทิศตะวันตก ถนนรัชดาภิเษก และตัวสะพานทางเข้าของอาคารจอดแล้วจร MRT ลาดพร้าว
. . . . . . . . . .
แปลนห้อง
สำหรับในส่วนของแปลนห้องนะครับ โครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว จะมาพร้อมกับเพดานห้องสูง 2.5 เมตร และห้องทุกห้องจะขายเป็นแบบ Fully Fitted สิ่งที่ลูกบ้านจะได้เหมือนกันในทุกยูนิตคือ
- ชุด Buit-in ครัว / ชั้นวางทีวี / ตู้เก็บของ / ตู้เสื้อผ้า / ฐานเตียง 5 ฟุต
- เครื่องปรับอากาศตามจำนวนห้อง จาก Daikin
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเหมือนในห้องตัวอย่างทุกประการ
- Digital Door Lock 4 ระบบ
ซึ่งแปลนห้องตัวอย่างที่ CondoNewb พาทุกคนมารีวิวกันที่โครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว ในบทความนี้ จะมีทั้งหมด 3 ห้องนะครับ เป็นแบบ 1 Bedroom 2 tupe และ 1 Bedroom Plus 1 type เดี๋ยวเรามาค่อย ๆ ไล่ดูไปทีละห้องกันเลยครับ
1 Bedroom Standard ขนาด 27.50 ตารางเมตร

มาเริ่มกันที่ห้องแบบ 1 Bedroom Standart กันก่อนเลยครับ ห้องนี้นะครับขอเรียกว่า เป็นแปลนที่เป็นแปลนมาตรฐาน เพราะว่าจากภาพที่เห็น จะค่อนข้างเป็น Layout ห้องที่คุ้นชินสำหรับคนทั่วไป เป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีการกั้นสัดส่วนต่าง ๆ อย่างชัดเจน ห้องนอนแยกกับห้องนั่งเล่น และมีครัวปิดติดกับระเบียง

First Impresstion
ในส่วนของ First Impresstion ห้องนี้ถือว่าเป็นห้องที่โปร่งเลยครับ เมื่อเปิดประตูเข้าไป เราจะสามารถมองทะลุไปได้ถึงหน้าต่างในห้องนอนเลย

Living Area
มุมนี้ผมถ่ายจากมุมด้านขวาของห้อง จะเห็นภาพรวมทั้งหมดของห้อง ซึ่งจะเห็นได้ว่าทางโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว ออกแบบห้องมาได้อย่างเป็นสัดส่วนมาก ๆ

Living Area
ถ้ามองย้อนกลับมา ก็จะเป็นภาพรวมของบริเวณ Living Area ทั้งหมดครับ ซึ่งต้องบอกว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่ ในห้องตัวอย่างทางโครงการวางโซฟาขนาดใหญ่มา นั่นแปลว่า ในห้องจริง เราอาจจะวางโซฟาที่ขนาดเล็กลง และวางโต๊ะรับประทานอาหารหรือโต๊ะทำงานคู่กันได้ครับ

Living Area
ตรงข้ามโซฟา จะเป็นชุด Built - in ที่ทางโครงการแถมให้ เป็นชั้นวางโทรทัศน์และตู้เก็บของ ถือว่าให้มาได้อเนกประสงค์ เก็บของได้ค่อนข้างเยอะเลยครับ ด้านบนจะเป็นเครื่องปรับอากาศ ที่ทางโครงการแถมให้เช่นเดียวกัน

Living Area
จากบริเวณเดียวกัน เราจะมองเห็นไปถึงโซนโต๊ะเครื่องแป้ง ที่อยู่ระหว่างห้องน้ำและห้องครัวด้วยครับ เป็นมุมที่ถือว่าค่อนข้างพอดี

Living Area
ซึ่งพอเราขยับมาดูใกล้ ๆ จะเห็นว่าพื้นที่ตรงนี้ ถ้าเกิดไม่ทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง เราอาจจะ Buit - in ชั้นวางเต็มผนัง เอาไว้เก็บของ หรือใครเลี้ยงปลา ตรงนี้วางตู้ปลาได้นะครับ เวลาล้างตู้ปลาก็ง่ายด้วย ใกล้ห้องน้ำ (ความชอบส่วนตัวล้วน ๆ )

ห้องน้ำ
ทีนี้ไหน ๆ ก็พูดถึงห้องน้ำแล้ว ก็ขยับมาดูห้องน้ำกันต่อครับ สำหรับรูปแบบของห้องน้ำที่ทุกคนเห็นกันอยู่นี้ เป็นห้องน้ำหน้าตามมาตรฐานของโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว เลยนะครับ เพราะเป็นห้องน้ำที่จะมีฟังก์ชันการใช้งานเหมือนกันในทุกยูนิตเลยครับ

ห้องน้ำ
โดยทางโครงการก็จะได้ทำการ Built - in ตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้ามาให้ในลักษณะนี้ด้วย กว้างดีครับ


ห้องน้ำ
ระยะต่าง ๆ ของการวางสุขภัณฑ์ ก็ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีครับ ใช้ได้ไม่อึดอัด และไม่มีซอกที่ทำความสะอาดยากจนเกินไป ขนาดค่อนข้างเหมาะสม และในบริเวณอ่างล้างหน้า ยังมีปลั๊กไฟพร้อม USB ทำกรอบกันน้ำ เตรียมเอาไว้ใช้กันด้วยครับ



ห้องน้ำ
ส่วนใน Shower Zone ทางโครงการก็ได้ทำการกั้นส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ โดยที่ตรงพื้นก็ได้มีการยกขอบขึ้นมากั้น รับกับฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย ด้านในก็จะเป็นฝักบัวแบบ Hand Shower พร้อมเจาะช่องทางของมาให้ แต่เครื่องทำน้ำอุ่น ไม่มีให้นะครับ

ห้องครัว
กลับหลังหันมาต่อกันที่ส่วนของครัวครับ ส่วนของครัวปิดในห้อง Type นี้ ทางโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว จะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน

ห้องครัว
ชุด Built - in ครัว ก็จะเป็นชุด Built - in มาตรฐานที่ทางโครงการจะ Built - in ให้กับทุกยูนิต เพียงแต่อาจจะมีการทำรูปแบบแตกต่างกันออกไปตามแต่ละ Type ห้องเท่านั้นครับ

ห้องครัว
โดยสิ่งที่ทางโครงการได้เตรียมไว้ให้ จะประกอบไปด้วย เตาไฟฟ้าแบบ 2 ตัว / เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจาน ทั้งหมดเป็นของ HAFALE ครับ

ชุด Built - in ครัว

ชุด Built - in ครัว
ซึ่งฟังก์ชันสำหรับชุดครัวที่ทางโครงการแถมมาก็จะเป็นพวกตู้และลิ้นชักต่าง ๆ แบบ Solf Close ครับ หน้าบานก็ทำออกได้สวย เปิดออกมาก็ที่เก็บของค่อนข้างเยอะดีครับ

ระเบียง
ส่วนระเบียงนั้น ต้องบอกตามตรงว่า ถ้าหากเราติดตั้งเครื่องซักผ้า ที่ทางโครงการได้เตรียมงานระบบเอาไว้ให้ ระเบียงนี้อาจจะเป็นระเบียงใช้งานเป็นหลักครับ แต่นี่คือปกติของคอนโด Low Rise ส่วนมากเรามักจะไม่คาดหวังเรื่องวิว มีระเบียงให้สูดอากาศบ้าง ตากผ้าบ้าง ขนาดเท่านี้ถือว่าค่อนข้างเหมาะสมแล้วครับ

ห้องนอน
กลับเข้ามาด้านในห้อง ไปต่อกันที่ส่วนของห้องนอนกันครับ ห้องนอนในห้องแบบ 1 Bedroom Standard ขนาด 27.5 ตารางเมตรนี้ จะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ขนาดของห้องนอนค่อนข้างกว้าง ทางโครงการแถมฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้

ห้องนอน
ภาพรวมของห้องนอนในห้องนี้ หากใครอยากวางเตียงขนาดใหญ่ขึ้นอาจจะไม่สะดวกครับ เพราะว่าจะติด Buit - in ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการแถมมา แต่เตียงขนาด 5 ฟุต ก็ถือว่าเป็นขนาดที่เหมาะสมกับการอยู่คอนโดพอสมควร และปลายเตียง ก็มีการติดตั้งงานระบบสำหรับแขวนโทรทัศน์มาให้เรียบร้อยแล้วด้วยครับ


ชุด Built - in ในห้องนอน
ภาพสุดท้ายของห้องนี้ ผมเปิดผ้าปูที่นอนและตู้เสื้อผ้า เพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ของเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการแถมให้ ก็ถือว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่คุณภาพค่อนข้างดี และอเนกประสงค์พอสมควรเลยครับ
. . . . . . . . . . .
1 Bedroom Smart Closet ขนาด 27.5 ตารางเมตร

มาถึง Type ห้องที่เรียกได้ว่า สร้างชื่อเสียงให้กับ Origin ค่อนข้างมาก และในโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว ก็ได้มีการนำ Type ห้อง 1 Bedroom Smart Closet นี้เข้ามาด้วย แต่ต้องอธิบายก่อนครับว่า คำว่า Smart Closet หากเป็นคุณผู้ชายฟังดูแล้วอาจจะรู้สึกว่าไม่เข้ากับ Lifestyle แต่จริง ๆ แล้ว คำว่า Smart Closet ของห้อง Type นี้ ไม่ได้หมายถึงการทำตู้เสื้อผ้าอย่างเดียว แต่ตู้ที่ทางโครงการ Built - in มาให้ ยังออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลายอีกด้วย เดี๋ยวเราไปดูกันครับ

First Impresstion
เริ่มจากบริเวณหน้าห้องเลยครับ ในห้อง Type นี้ เมื่อเราเปิดประตูห้องเข้ามา เราจะเห็นแทบจะทุกส่วนของห้องแล้ว หลายคนกลับคิดว่า เฮ้ย… ห้องนี้มันเหมือน Studio เลยเหรอ จริง ๆ ไม่ใช่แบบนั้นครับ สัดส่วนค่อนข้างชัดเจนอยู่ อย่างแรกเลยคือครัวที่เราเห็น จะเป็นครัวปิด กั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน

รางเลื่อนประตู
ซึ่งการกั้นประตูบานเลื่อนแบบนี้ ข้อดีข้อแรกคือ ห้องจะดูโปร่ง ไม่อึดอัด มองทะลุถึงกันได้หมด และอีกอย่างคือ ประตูชุดนี้จะทำหน้าที่เป็น “กำแพงชั้นที่สอง” สำหรับกั้นเสียงจากทางเดิน ไม่ให้ทะลุเข้ามาถึงในส่วนของ Living Area ครับ


ห้องครัว
ส่วนของครัวนั้น ชุด Built - In เป็นลักษณะเดียวกันกับห้องเมื่อสักครู่ทุกประการ แต่ห้องครัวในห้อง Type นี้ จะเป็นแบบมี 2 ฝั่งครับ

ชุด Built - in ตู้เก็บของ
ซึ่งฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่วางตู้เย็น และตู้ Built - in ขนาดใหญ่เลย พอเอาตู้ Built - in มาติดตั้งตรงนี้ จะทำให้เราได้ทั้งพื้นที่เก็บของใช้จำเป็นก่อนออกจากห้อง และสามารถเก็บอาหารแห้งต่าง ๆ ในส่วนของครัวได้ด้วย อเนกประสงค์ดีครับ

Living Area
ขยับเข้ามาในส่วนของ Living Area กันครับ ภาพนี้เป็นมุมมองจากบริเวณหัวเตียง มองกลับไปทางห้องครัว จะเห็นโซน Living Area ค่อนข้างชัด รวมถึงยังเห็นชุด Buit - In โทรทัศน์ และเครื่องปรับอากาศที่ทางโครงการแถมมาให้ด้วย

Living Area
ระยะของการวางโซฟาถือว่าค่อนข้างมากครับ ในห้องตัวอย่าง เป็นโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง ซื้อห้องขนาดนี้ถ้าอยู่ 1 - 2 คน วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง แล้ววางโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่ง หรือโต๊ะอเนกประสงค์ข้างกัน ก็สามารถทำได้ครับ

พื้นที่วางเตียง
ทีนี้มาดูในส่วนของพื้นที่วางเตียงกันบ้าง ในห้องตัวอย่าง จะวางเตียงขนาด 5 ฟุต มาให้ ฟังก์ชันของฐานเตียงจะเหมือนกันกับในห้องเมื่อสักครู่ทุกประการครับ

พื้นที่วางเตียง
แต่ในห้องนี้จะมีการติดตั้ง Wireless Charge มาให้บริเวณหัวเตียง พร้อมกับมีปลั๊กไฟแบบพอร์ต USB มาให้ด้วยครับ

พื้นที่วางเตียง
อีกจุดที่น่าสนใจขอพื้นที่วางเตียงห้องนี้ เป็นพื้นที่ไม่ได้พอดีกับขนาดของเตียง ฉะนั้นแปลว่า หากเราอยากวางเตียงขนาดใหญ่ขึ้น ก็สามารถทำได้ครับ ซึ่งแน่นอนว่าก็อาจจะต้องแลกกับปลั๊กไฟบริเวณหัวเตียงที่จะไม่สามารถใช้งานได้ครับ แต่ผมว่าอันนี้เรื่องเล็ก

Smart Closet
ต่อไปเรามาดู Highlight ของห้องนี้กันดีกว่าครับ ก็คือตัว Walk - in Closet ซึ่งจะมีประตูบานเลื่อนกั้น เดินเข้าทางบริเวณปลายเตียงครับ โดยทางโครงการทำการ Built - in ตู้เสื้อผ้าเต็มผนังมาให้เลย ถ้าวัดพื้นที่กันจริง ๆ ผนังตรงนี้จะมีความกว้างเท่ากับผนังที่อยู่หลังโซฟาใน Living Area เลย

Smart Closet
มุมนี้ผมออกไปยืนตรงระเบียง ซึ่งติดกันกับตัว Smart Closet เพื่อถ่ายภาพมุมลึกให้ได้ชมกันครับ ด้านในสุดจะเป็นห้องน้ำ และด้านขวาของภาพนี้จะเห็นพื้นที่ใน Living Area และครัวเพิ่มเติมด้วย เปรียบเทียบกันแล้วขนาดของ Smart Closet ห้องนี้ ถือว่าไม่เล็กเลยนะครับ



ระเบียง
ส่วนพื้นที่ของระเบียงในห้องนี้ก็จะมีหน้าตาคล้ายกับห้องเมื่อสักครู่เลยครับ เป็นระเบียงที่ออกแบบมาให้ติดตั้งเครื่องซักผ้าได้ และเน้นเป็นระเบียงใช้งานเป็นหลัก

ห้องน้ำ
สุดท้าย ส่วนของห้องน้ำ ก็จะเป็นห้องน้ำหน้าตามาตรฐานของโครงการเลยครับ หน้าตาเหมือนกับในห้อง 1 Bedroom Standard ทุกประการ



ห้องน้ำ
ฟังก์ชันด้านในก็เรียกได้ว่า เป็นห้องน้ำรูปแบบเดียวกันเลย เพียงแค่อยู่คนละฝั่งเท่านั้น ระยะการวางสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ถือว่าทำได้ดี มีตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า และปลั๊กไฟ + พอร์ต USB พร้อมกรอบกันน้ำมาให้ ฝักบัวเป็นแบบ Hand Shower มีช่องเจาะสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ และมีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาไว้ให้ เพื่อกั้นส่วนเปียกส่วนแห้งครับ
. . . . . . . . . . .
1 Bedroom Plus 34 ตารางเมตร

มาถึงห้องตัวอย่างที่ใหญ่ที่สุด สำหรับห้องตัวอย่างที่เราพาทุกท่านมาชมกันในวันนี้นะครับ จะเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตารางเมตร แปลนเกือบ ๆ จะเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่าเลย ซึ่งเป็นแปลนที่ผมชอบมาก ในห้องนี้จะมีจุดเด่นคือทางโครงการจะใส่เทคโนโลยี Smart Mirror มาให้ด้วย เดี๋ยวเราไปค่อย ๆ ไล่ดูทีละส่วนเลยครับ

First Impresstion
เริ่มจากหน้าห้องเลยครับ ภาพนี้ผมถ่ายจากประตูหน้า ซึ่งจะเห็นภาพรวมเกือบทั้งหมดของตัวห้องแล้ว ทั้งบริเวณ Living Area ห้อง Plus และประตูที่เข้าไปยังห้องนอนและห้องน้ำ

ชุด Built - in ตู้เก็บของ

ชุด Built - in ตู้เก็บของ
ซึ่งถ้าเรากลับหลังหันมา ก็จะเจอชุด Built - in ที่ทางโครงการทำไว้ให้บริเวณหน้าประตู เป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างดี เหมาะจะใส่รองเท้า ร่ม และของใช้ที่พกไปข้างนอกในชีวิตประจำวัน ข้อดีของตู้ Built - in ชุดนี้คือ พอมีประตูเปิด-ปิด ก็ทำให้การเก็บของเป็นระเบียบขึ้นมากครับ

Living Area
กลับหลังหันมาอีกครั้ง ภาพนี้ก็จะเป็นอีกภาพที่เห็นภาพรวมของห้องนี้ได้อย่างชัดเจนครับ โดยจะเห็นรวมถึงส่วนของห้องครัวด้วย แต่อยากให้เน้นที่บริเวณ Living Area ก่อน ชุด Built - in โทรทัศน์นี้ ทางโครงการก็แถมให้ รวมถึงเครื่องปรับอากาศด้านบนด้วย

Living Area
ภาพรวมของ Living Area ขนาดไม่ได้ต่างกับในห้อง 1 Bedroom Standard เท่าไหร่ครับ โซฟายังคงใส่ได้ทั้งขนาด 2 และ 3 ที่นั่ง ซึ่งถ้าลดขนาดโซฟาลง ก็เพิ่มโต๊ะได้อีก 1 ตัวเหมือนกัน

ห้องครัว
ต่อมาเรามาดูในส่วนของครัวกันบ้างครับ ครัวของห้องแบบ 1 Bedroom plus จะเป็นครัวปิดเช่นเดียวกัน โดยครัวปิดของห้อง Type นี้ จะเป็นครัวปิดที่ไม่มีทางออกสู่ระเบียงเลย และเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นรูปตัว L พร้อมจุดติดตั้งเครื่องซักผ้าครับ

ห้องครัว
ฟังก์ชันด้านในครัว จะเป็นชุด Built - in เดียวกันกับทุก ๆ ห้องในโครงการ เป็นมาตรฐานของโครงการเลยครับ ก็จะมีเตาไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจาน ของ HAFALE

ห้องครัว
ซึ่งพื้นที่ของครัว จะมีส่วนที่เว้นว่างและเป็นมุมอาคารอยู่ มุมนี้ถ้าหากมีโต๊ะบาร์ซักตัววางพร้อมกับเก้าอี้สตูทรงสูง เอาไว้รับประทานอาหารแบบเร็ว ๆ คนเดียวได้ หรือถ้าใครวางโต๊ะรับประทานอาหารด้านนอกแล้ว พื้นที่ตรงนี้ Built - in เป็นตู้เก็บของ หรือทำเครื่องครัวเอาไว้ใช้เพิ่มเติมได้นะครับ

ห้อง Plus
มาต่อกันที่ห้อง Plus บ้างครับ ห้อง Plus ของโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว จะเป็นห้องที่อยู่ติดกับระเบียงด้วย ในห้องตัวอย่างทำมาเป็นห้องนอนเล็กให้ แต่ส่วนตัวผมมองว่า พอเป็นประตูกระจกบานเลื่อน และติดระเบียงแบบนี้ ห้องนี้จะเหมาะทำเป็นห้องอเนกประสงค์มากกว่าครับ

ห้อง Plus
ซึ่งในห้อง Plus นี้ ทางโครงการจะมีการติดตั้งงานระบบสำหรับทีวีแขวนผนังเอาไว้ และมีเครื่องปรับอากาศที่ทางโครงการแถมให้อยู่ด้วยครับ ส่วนระเบียงด้านใน เป็นระเบียงที่ออกไปสูดอากาศได้บ้าง แต่ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก

ห้อง Plus
ส่วนที่เป็นประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ที่กั้นห้อง Plus ออกจาก Living Area ครับ

ห้องนอนหลัก
มาต่อกันที่ห้องนอนหลักกันบ้างครับทุกคน ในห้องแบบ 1 Bedroom Plus ของโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว ถือว่าให้ขนาดห้องนอนมาค่อนข้างใหญ่เลยครับ พื้นที่เตียงยังเหลือแทบทุกด้าน โดยเฉพาะปลายเตียง ที่เหลือเฟือจนกระทั่งสามารถใส่โต๊ะทำงานเข้าไปได้

ห้องนอนหลัก
และแน่นอนว่าถ้าหากอยากจะวางเตียงขนาด 6 ฟุต ทางโครงการนี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ว่าแน่นอน อาจจะเสียปลั๊กไฟบริเวณหัวเตียงไปครับ

ห้องนอนหลัก
อีกด้านของเตียงจะเป็นบริเวณที่ทางโครงการ Built - in ตู้เสื้อผ้ามาให้ ซึ่งตรงนี้ เอาจริง ๆ ก็เหลือพื้นที่ค่อนข้างเยอะเลย ส่วนฟังก์ชันด้านในตู้เสื้อผ้า ก็จะเหมือนกันกับในห้องที่ผ่านมาทุกประการครับ

ห้องน้ำ
ส่วนสุดท้าย ห้องน้ำครับ ห้องน้ำของห้อง Type นี้ ก็จะยังเป็นห้องน้ำหน้าตามาตรฐานของทั้งโครงการ โดยที่อุปกรณ์ภายในจะเหมือนกับห้องอื่น ๆ ทุกอย่างครับ

Smart Mirror
แต่จะมีความพิเศษตรงที่ ห้องน้ำในห้องแบบ 1 Bedroom Plus จะมีการติดตั้ง Smart Mirror เอาไว้ภายใต้กระจกส่องหน้าด้วย เป็นเทคโนโลยีที่ทาง The Origin รัชดา - ลาดำพร้าว ใส่มาให้กับลูกบ้านครับ
. . . . . . . . . . .
วิเคราะห์ทำเล

สำหรับทำเลของโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว ต้องบอกแบบนี้ครับว่า เป็นทำเลที่ส่วนตัวผมเอง ไม่ค่อยได้คลุกคลีกับย่านนี้เท่าไหร่ จะมีก็แต่ขับรถผ่านไปมาเท่านั้น แต่พอได้ทำรีวิวนี้ ก็ทำให้ต้องเข้าไปศึกษาตัวทำเลบริเวณแยกรัชดา - ลาดพร้าว อย่างจริงจัง จึงทำให้ผมพบว่า ทำเลนี้ “มีของ”
ที่บอกว่ามีของเพราะอะไร อย่างแรกเลย เรื่องของการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า แน่นอนว่าจากหัวข้อเรื่องของทำเลด้านบน หลายคนน่าจะทราบแล้วว่าทำเลนี้คือจุด Interchange ของรถไฟฟ้า 2 สาย ทั้งรถไฟฟ้า MRT สีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าว และรถไฟฟ้า โมโนเรลสายสีเหลือง สถานีรัชดา ซึ่งคืบหน้าไปกว่า 82 % (สิงหาคม 64) และมีกำหนดการเปิดให้บริการในปีหน้าแล้วครับ
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นรถไฟฟ้าสายที่มีจุดเชื่อมต่อเยอะมาก ครบหมดทั้ง รถ ราง เรือ อีกทั้งยังวิ่งตรงเข้าย่านเศรษฐกิจ ทั้งพระราม 9, อโศก, สีลม แถมยังวิ่งผ่านย่านท่องเที่ยว รวมถึงยังวิ่งวนเป็นวงกลมอีกด้วย ถือว่าเป็นสายรถไฟฟ้าที่ค่อนข้างมีศักยภาพสูงมากทีเดียว
ส่วนสายสีเหลือ สำโรง - ลาดพร้าว ก็วิ่งผ่านถนนลาดพร้าวซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเต็มไปด้วยแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งงาน และพอวิ่งไปออกยังถนนศรีนครินทร์ ก็จะผ่านถนนบางนา - ตราด ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมต่อ EEC ในอนาคตด้วย จึงถือได้ว่าเป็นทำเลที่เดินทางได้ค่อนข้างสะดวกมากทีเดียวครับ
ส่วนในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ ผมคาดว่าในอนาคต เมื่อรถไฟฟ้าทั้งสองสายมา Interchange กันอย่างสมบูรณ์ จะเกิดเป็น HUB เล็ก ๆ บริเวณนี้ และอย่างที่เห็นว่าแม้จะยังไม่เรียบร้อย แต่ความอุดมสมบูรณ์ภายใน MRT ลาดพร้าวก็มีมากอยู่แล้ว ลองคิดเล่น ๆ ว่า เมื่อ Interchange เสร็จสมบูรณ์ จำนวนคนใช้งานรถไฟฟ้าจะมากขึ้น แหล่งความอุดมสมบูรณ์ต่าง ๆ ก็จะเพิ่มขึ้นตาม ยิ่งเป็นทำเลที่ใกล้ทั้งห้าแยกลาดพร้าวและรัชโยธินแบบนี้แล้วด้วย ต้องไปได้สวยในอนาคต ราคาขึ้นแน่นอนครับ
. . . . . . . . . . .
วิเคราะห์โครงการ

“สวย” คำเดียวสั้น ๆ ที่ผุดขึ้นมาในหัว จากนั้นจึงต่อด้วยคำว่า “มีความเป็นส่วนตัว” ผมดึงสองคำนี้ออกมาได้จากการทำรีวิวโครงการ The Origin รัชดา - ลาดพร้าว อย่างแรกที่ผมบอกว่า สวย ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของการออกแบบอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของ Concept ด้วย
ตัวโครงการมีการออกแบบที่ผมมองว่าค่อนข้างตอบโจทย์ คนที่อยากได้คอนโดสวย ๆ โทนอบอุ่น มีความสงบ เรียบ หรู แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในหลาย ๆ ด้าน เราจึงได้เห็นการออกแบบสไตล์วินเทจ อยู่ร่วมกับพื้นที่ส่วนกลางสมัยใหม่ อย่างเช่นห้องสตูดิโอ ซึ่งผมมองว่า เป็นการเบลนให้งานตกแต่งที่ออกไปในทาง Classic ผสมรวมกับไลฟ์สไตล์ได้อย่างค่อนข้างลงตัว
ผมชอบที่ Concept โครงการ ต้องการให้ลูกบ้านได้ใช้ชีวิตช้า ๆ และดื่มด่ำกับบทสนทนาดี ๆ หรือวิวสวย ๆ ในโครงการ แบบนั้นมันตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองมาก และผมรู้สึกได้เลยว่าลูกบ้านในโครงการจะต้องมีความผ่อนคลาย เวลาใช้งานส่วนกลางอย่างแน่นอน
ส่วนเรื่องของความ เป็นส่วนตัว ที่ผมบอก แน่นอนว่ายูนิตในโครงการไม่เยอะ นั่นคือเราได้ความเป็นส่วนตัวแน่นอนอยู่แล้ว แต่อีกอย่างที่ผมอยากให้โฟกัส คือเรื่องของการออกแบบโครงการ เพราะว่าทาง Origin ออกแบบโครงการนี้มาได้มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก แม้ว่าจะเป็นโครงการ Low Rise แถมยังมีที่อยู่อาศัยอยู่รายล้อมด้วย ทำออกมาได้ค่อนข้างดีครับ
. . . . . . . . . . . . .
วิเคราะห์แปลนโครงการ

ส่วนตัวผม ผมชอบห้อง 1 Bedroom Standard ครับ เลยอยากมาขอแนะนำห้องนี้เป็นหลัก เพราะมันเหมาะทั้งกับคนที่อยู่ 1 - 2 คน มีความเป็นสัดส่วน และราคาก็จะไม่ได้สูงมากครับ (เช็คราคากับโครงการอีกครั้ง)
โดยตำแหน่งที่ผมชอบจะเป็นตำแหน่งนี้ครับ ซึ่งจะเหมือนกันทุกชั้นเลย ตรงนี้จะเป็นห้องที่หันออกด้านนอกอาคาร เดินไม่ไกลลิฟต์ และอยู่ในตำแหน่งที่ผนังของห้องนอน ไม่ติดกับเพื่อนบ้านด้วย เนื่องจากว่าเป็นห้องมุมอาคารที่ยื่นออกมา อยู่ในจุดที่ตัวอาคารเลี้ยวไปอีกด้านพอดี
ห้องนี้จึงเป็นห้อง 1 Bedroom ห้องเดียวในโครงการที่เปรียบเสมือนแปลนมุมครับ ถือว่าค่อนข้างน่าสนใจ และแน่นอนว่าตำแหน่งนี้มีไม่เยอะ ถ้าไม่ได้ตำแหน่งนี้ แล้วอยากได้ห้องมุม จะต้องไปเป็นห้อง 1 Bedroom Plus เลยครับ
. . . . . . . . . .
และนี่ก็เป็นทั้งหมดของรีวิวคอนโด The Origin รัชดา - ลาดพร้าว ครับ สุดท้ายเช่นเคยนะครับ อย่างที่ได้กล่าวมาตลอด การวิเคราะห์แปลนเป็นเพียงการแนะนำคร่าว ๆ เท่านั้น ห้องที่เราไม่พูดถึง ไม่ได้หมายความว่าไม่ควรซื้อ และห้องที่เราว่าดี ก็อาจจะไม่ได้ไปตรงใจใครหลาย ๆ คน ฉะนั้น เลือกห้องตามใจผู้อยู่ ดูว่าเราชอบข้อดีของห้องไหน และรับข้อเสียของห้องไหน เเลกกับราคา วิว เเละระยะเดิน ถ้าทุกปัจจัยพอดีกับชีวิต เลือกห้องตามใจคุณได้เลยครับ และสำหรับ รีวิว The Origin รัชดา - ลาดพร้าว ฉบับนี้ ก็จบลงเพียงเท่านี้ครับ ไว้พบกันใหม่ในรีวิวคอนโดฉบับหน้า สวัสดีครับ : )