ช่วงนี้สถานการณ์ โควิด – 19 ยังคงระบาดอย่างหนัก ในหลากหลายธนาคารต่างก็มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้มากมายโดยนิวบ์จะขอพาเพื่อน ๆ ไปดูเกี่ยวกับ 5 ธนาคารชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคากรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรและธนาคากรุงศรี ว่าธนาคารทั้ง 5 นี้ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้อะไรบ้าง และหากเพื่อน ๆ อยากอ่านมาตรการพักชำระหนี้ออมสิน สามารถตามไปอ่านได้ที่ลิ้งค์เลย คราวนี้เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่า มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ตามธนาคารที่กล่าวไปข้างต้นมีอะไรบ้าง
. . . . . . . . . .
มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ระรอก 2 ของแต่ละธนาคารทำงานอย่างไร

ในหลากหลายธนาคารต่าง ๆ ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ประสบปัญหาโควิด – 19 ที่ระบาดในพื้นที่สีแดงเข้มและสีแดง ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมทั้ง 28 จังหวัด แต่บางธนาคารนั้นก็ยังมีการช่วยเหลือลูกหนี้ทั่วทั้งประเทศไทยอยู่ อย่างไรก็ตามธนาคารส่วนใหญ่มุ่งหวังลดภาระให้กับประชาชน ให้สามารถผ่อนชำระหนี้ ลดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับบุคคลที่โดนลดเงินเดือน บุคคลที่ว่างงาน รวมทั้งสถานประกอบการที่ขาดรายได้ หรือทำให้ต้องหยุดพักกิจการ โดยมักจะออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้บัตรเครดิต และ มาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อ เป็นส่วนใหญ่
ทุกธนาคารต่างพร้อมใจกันสร้างมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ในเกือบทุกรูปแบบของสินเชื่อและบัตรเครดิตที่ทางธนาคารนั้นมี ซึ่งหากจะมองเป็นภาพใหญ่สามารถแบ่งมาตรการได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- มาตรการความช่วยเหลือที่ให้อัตโนมัติโดยที่ลูกหนี้ไม่ต้องลงทะเบียน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีผลตั้งแต่ในปี 2563 และ
- มาตรการการช่วยเหลือที่ต้องผ่านการลงทะเบียน ซึ่งส่วนใหญ่จะครอบคลุมการให้ความช่วยเหลือจนถึง 31 ธันวาคม 2564
ข้อดีที่น่ารู้เกี่ยวกับการเข้าโครงการช่วยลูกหนี้
ก่อนที่เราจะไปดูมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ว่าแต่ละธนาคารมีอะไรบ้าง เรามาดูข้อดีของคนที่เข้าไปรับสิทธิมาตรการช่วยลูกหนี้จากทุกธนาคารว่าจะได้รับสิทธิอะไรที่น่าสนใจบ้าง และตัวลูกหนี้เองจะได้รับประโยชน์อย่างไร เพื่อที่ว่าเราจะผ่านวิกฤตการระบาดโควิด – 19 ได้อย่างปลอดภัย เราไปดูด้วยกันเลยค่ะ
- รวมหนี้ที่กระจัดกระจายหลายแห่งให้เป็นก้อนเดียว ทำให้ง่ายต่อการจัดการและไม่ต้องคอยกังวลจากการถูกทวงถามหนี้จากหลายๆที่
- มีโอกาสได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงด้วยการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้
- จำนวนเงินที่ผ่อนชำระน้อยลงเมื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว
- ทำให้รู้ระยะเวลาในการผ่อนชำระที่แน่นอน
- สำหรับการรวมหนี้ของบางธนาคาร ในมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ในสถานการณ์ที่ได้ผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 บางธนาคารอาจพิจารณาให้ลูกค้าที่เข้าโครงการ สามารถใช้วงเงินที่คงเหลือจากสินเชื่อบางประเภทที่ลูกค้ามีเหลืออยู่ได้ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มสภาพคล่องและเป็นการเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส
- หากสามารถรวมหนี้ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ได้สำเร็จ จะไม่มีเสียประวัติในการขอสินเชื่อ
สำหรับข้อดีทั้ง 6 ข้อที่นิวบ์ได้กล่าวไปนั้น มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้จะสามารถช่วยเหลือทุกคนได้ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้โดยส่วนตัวสำหรับนิวบ์คิดว่าเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาทางการเงินจริง ๆ หรือคนที่คาดการณ์ว่ารายได้ของตัวเองในอนาคตจะหดหาย และเหมาะสำหรับคนที่มีความกังวล และคิดว่าเงินที่เก็บอยู่อาจไม่พอใช้ชำระในอนาคต ก็ขอให้เข้าไปสอบถามรายละเอียดที่ติดหนี้ เพื่อเลือกมาตรการที่เหมาะสมกับตัวเองได้ค่ะ
5 ธนาคารชั้นนำกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้
ต่อไปนิวบ์จะพาเพื่อน ๆ ไปดูมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารทั้ง 5 กันบ้างดีกว่า โดยที่นิวบ์ได้เลือกทั้ง 5 ธนาคารนี้มา เพราะเป็นธนาคารที่มีการปล่อยสินเชื่อมากที่สุด ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ยังมีอีกหลากหลายธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ ก็ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ไม่แพ้กัน โดย 5 ธนาคารมีมาตรการดังต่อไปนี้
1. มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ธนาคารไทยพาณิชย์

เริ่มแรกเรามาดูกันที่ธนาคารไทยพาณิชย์ก็ได้มีการออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ระลอกใหม่ ซึ่งบางนโยบายก็มาจากระลอกแรก และก็ยังมีผลจนถึง ณ ปัจจุบัน ซึ่งการระบาดระลอก 2 ในครั้งนี้ ก็ยังมีนโยบายใหม่ ๆ ที่มาซัพพอร์ตคนไทยเช่นกัน ก่อนอื่นเราไปดูกันก่อนนะคะ ว่าเดิมทีมีนโยบายอะไรบ้าง
มาตรการระรอก 1 ที่มีผลตั้งแต่ที่ 1 สิงหาคม 2563
- มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้บัตรเครดิต คือ ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้บัตรเครดิตทุกประเภทของธนาคาร โดยมีการลดดอกเบี้ยจาก 18 % เป็น 16 %
- มาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อ เป็นมาตรการที่เหมาะกับลูกค้าที่เป็นลูกหนี้.สินเชื่อหมุนเวียน และสินเชื่อบุคคล ลดอัตราดอกเบี้ยจาก จาก 28 % เป็น 25 %
มาตรการระรอก 2 ที่สามารถเข้าร่วมได้ภายใน 30 มิ.ย.2564
สำหรับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ระรอก 2 นั้น ได้มีการแบ่งย่อยมาตรการที่ช่วยเหลือหลากหลายขึ้น เพื่อช่วยลูกหนี้ได้หลากหลายรูปแบบ หลากหลายบุคคล และหลากหลายผู้ประกอบการ โดยมีรายละเอียดดังนี้เลยค่ะ
- ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ สามารถผ่อนเงินต้นค้างชำระ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 12 % นาน ถึง 48 เดือน (4 ปี) ยกเว้นลูกค้าบัตรเครดิตที่หน้าบัตรเป็น JBC และลูกค้าที่มีรายการใช้จ่ายที่ขอใช้บริการ “ดีจัง” ของธนาคาร และมีการผ่อนชำระแบบรายเดือน
- ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อหมุนเวียน Speedy Cash สามารถผ่อนเงินต้นค้างชำระด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 22 % ต่อปี นาน 48 เดือน (4 ปี) ยกเว้นรายการใช้จ่ายที่ขอใช้บริการ “ดีจัง” และมีการผ่อนชำระแบบรายเดือน
- ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อบุคคล Speedy Loan สามารถปรับลดการผ่อนต่องวดเหลือ 30 % ของอัตราผ่อนเดิม ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 22 % ต่อปี
- ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อรถยนต์ สามารถพักชำระค่างวด 3 เดือน หรือ ปรับลดอัตราผ่อนและขยายระยะเวลาผ่อน
- ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อบ้าน สามารถพักชำระค่างวด 3 เดือน หรือ พักชำระเงินต้น 3 เดือน หรือพิจารณาดอกเบี้ยให้ตามความเหมาะสม หรือปรับลดอัตราผ่อนและขยายระยะเวลาผ่อน
- ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (ที่มียอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาท) สามารถพักชำระค่างวด 3 เดือนหรือ ปรับลดอัตราผ่อนและขยายระยะเวลาผ่อน
ช่องทางการติดต่อ
- แอป SCB EASY สำหรับลูกค้าประเภทบุคคล
- ติดต่อผ่านระบบอัตโนมัติ SCB Call Center ที่ 02-777-7777
2. มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ธนาคารกรุงเทพ

ต่อมาเรามาดูมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ระลอก 2 ของธนาคารกรุงเทพกันนะคะ โดยธนาคารกรุงเทพจะมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ซึ่งช่วยลูกหนี้ทั้งแบบบุคคลธรรมดา รวมทั้งผู้ประกอบการเช่นเดียวกัน และนอกจากนี้ยังมีมาตรการปรับโครงสร้างนี้ด้วย นับว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าธนาคารกรุงเทพมีมาตรการอะไรบ้าง
1. ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้บัตรเครดิต
- สามารถปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำจากเดือนละ 10 % เป็น 5 % จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดยผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพทุกประเภท สามารถรับสิทธิอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องลงทะเบียน
- ธนาคารขยายวงเงินชั่วคราวให้แก่ลูกค้าที่มีความจำเป็นและมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยขยายวงเงินให้ลูกค้าที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า 30,000 บาท จากมีวงเงินแค่ 1.5 เท่าของรายได้ เพิ่มเป็น 2 เท่าของรายได้ ในระยะเวลาที่กำหนดคือ ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2563 จนถึง 31 ธ.ค. 2564 เท่านั้น
2.ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล
ต่อมาจะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อ ซึ่งทางธนาคารกรุงเทพมีมากมายหลายแบบ ที่ครอบคลุมทั้งตัวบุคคลและสถานประกอบการ โดยรายละเอียดก็มีตามนี้
2.1 ประเภทสินเชื่อเงินกู้ที่ผ่อนชำระเป็นงวด (Installment Loan)
- ธนาคารปรับลดค่างวดอย่างน้อย 30% ของค่างวดเดิม และคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
2.2 ประเภทสินเชื่อเงินกู้ที่มีลักษณะหมุนเวียน (Revolving Loan)
- ธนาคารปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำให้กับลูกหนี้ ตามความสามารถในการชำระหนี้
- ธนาคารเปลี่ยนเป็นสินเชื่อให้เป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลาผ่อนชำระ (term loan) 48 งวด (4 ปี) หรือขยายระยะเวลาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
2.3 สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ใช้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน
- ธนาคารให้เลื่อนการชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- ธนาคารให้เลื่อนชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- ลดค่างวดในการผ่อนชำระโดยขยายเวลาในการชำระหนี้
นอกจากนั้นทางธนาคารกรุงเทพยังมีมาตรการให้มี การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยการรวมหนี้ (Debt Consolidation) โดยรวมหนี้ทุกประเภทที่มีกับธนาคาร เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยทั้งในกรณีที่ได้รับผลประทบจากการระบาดของโควิค 19 ผลกระทบที่เกิดจากสงครามการค้า และผลกระทบที่เกิดจากภัยธรรมชาติอีกด้วย
2.4 สินเชื่อธุรกิจ SME
- ธนาคารปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ให้ลูกค้าได้กู้เพิ่มเพื่อเสริมสภาพคล่อง
- ธนาคารมีมาตรการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
3. มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ธนาคารกรุงไทย

คราวนี้เรามาถึงธนาคารที่ 3 กันแล้วนะคะ สำหรับธนาคารกรุงไทยในภาพรวมได้มีการแบ่งมาตรการการช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคาร ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิค 19 ที่กลับมาระบาดในรอบ 2 โดยแบ่งการช่วยเหลือ ออกเป็น 2 กลุ่มหลักดังนี้
มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นลูกค้าประเภทบุคคล
มาตรการดังกล่าวนี้ถือว่าเป็น มาตรการช่วยเหลือระยะที่ 2 ของทางธนาคาร โดยมีระยะเวลาในการดำเนินในการตั้งแต่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 64 และแบ่งกลุ่มที่ให้ความช่วยเหลืออลูกหนี้ออกเป็น 3 ด้านดังนี้
1. สินเชื่อส่วนบุคคล ประเภทวงเงินหมุนเวียน
- สินเชื่อบุคคล ประเภทวงเงินหมุนเวียน : โดยเปลี่ยนเป็นวงเงินกู้เป็นเงินกู้แบบกำหนดระยะเวลา (Term Loan) 48 งวด ( 4 ปี ) หรือ ขยายระยะเวลาได้ตามความสามารถในการชำระหนี้
- สินเชื่อบุคคลแบบกำหนดระยะเวลา โดยธนาคารให้ลูกหนี้ได้ลดการผ่อนชำระลง 30% จากยอดการผ่อนชำระตามสัญญากู้เดิม นานสูงสุด 6 เดือน
- สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันในการกู้ โดยธนาคารให้พักชำระหนี้เงินต้น และชำระเฉพาะดอกเบี้ยได้ นาน 3 เดือน หรือ ลดค่างวด โดย ขยายเวลาในการชำระหนี้เพิ่มขึ้น
- สินเชื่อบ้าน สินเชื่อ Home for Cash, สินเชื่อกรุงไทยบ้านให้เงิน ธนาคารให้ลูกหนี้ได้พักชำระเงินต้น และชำระเฉพาะดอกเบี้ย นาน 3 เดือน หรือ ลดค่างวดโดยการขยายระยะเวลาการชำระหนี้
มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นลูกค้าธุรกิจ (ผู้ประกอบ)
โครงการ DR BIZ การเงิน ร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง โดยมุ่งเน้นไปที่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิค-19 ที่มีวงเงินสินเชื่อกับธนาคารมากกว่า 1 แห่ง และมีวงเงินสินเชื่อรวมทุกธนาคาร ตั้งแต่ 50-500 ล้านบาท โดยโครงการนี้มีระยะเวลา ตั้งแต่ 1 ก.ย. 2563 – 31 ธ.ค. 2564
ทั้งนี้ธนาคารจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ขอรับมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวใน 3 รูปแบบคือ
- ลด ค่างวดการผ่อนชำระ ตามความสามารถของลูกค้า
- ยืด ระยะเวลาการปลอดการชำระ ขยายระยะเวลาชำระหนี้ และทบทวนการใช้วงเงินที่เหลืออยู่ ตามความเหมาะสม
- เสริม สภาพคล่องให้แก่ลูกค้าที่มีศักยภาพ มีความตั้งใจในการทำธุรกิจ มีแผนธุรกิจที่ชัดเจน
สำหรับธนาคารกรุงไทยจะพิจารณาจากประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมา และพิจารณาความเหมาะสมให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร ซึ่งหากใครที่สนใจมาตรการเหล่านี้สามารถติดต่อสอบถามไปยังธนาคารสาขาใกล้บ้านได้
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดต่อได้ที่นี่
- https://krungthai.com/covid19-2/main
- เบอร์โทร : 0-2111-1111
4. มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ธนาคารกสิกรไทย

สำหรับธนาคารกสิกรไทย ซึ่งมีการปล่อยสินเชื่อมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศ ได้มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ในสถานการณ์การระบาดของโควิค-19 ตั้งแต่ในปี 2019 จนถึงการระบาดโควิดในรอบที่ 2 ปี 2021 โดยนิวบ์ได้รวบรวมรายละเอียดมาให้แล้วดังต่อไปนี้
มาตรการการช่วยเหลือประเภทที่ 1
มาตรการช่วยเหลือที่ลูกค้าไม่ต้องลงทะเบียน โดยจะมีผลในการช่วยเหลืออัตโนมัติ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน มีดังนี้
- ลูกหนี้ที่เป็นลูกหนี้ประเภทบัตรเครดิต จะได้รับการลดอัตราดอกเบี้ยในการชำระหนี้จากปกติ 18% เป็น 16%
- ลูกหนี้ที่เป็นลูกหนี้บัตรเงินด่วน จะได้รับการลดอัตราดอกเบี้ยจากปกติ 28% เป็น 25%
- ลูกหนี้ที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อเงินด่วน จะได้รับการลดอัตราดอกเบี้ย จาก 28% เป็น 25%*
- ลูกหนี้ที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อรถช่วยได้ประเภทจำนำทะเบียนรถ จะได้รับลดอัตราดอกเบี้ยจากจาก 28% เป็น 24%
มาตรการการช่วยเหลือลูกหนี้ประเภทที่ 2
มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ต้องลงทะเบียน มีมาตรการที่สร้างทางเลือกในการแก้ปัญหาให้แก่ลูกหนี้ของในแต่ละกลุ่ม โดยมีหลายทางเลือกดังนี้
- ลูกหนี้ที่เป็นลูกหนี้ประเภทบัตรเครดิต มีมาตรการทางเลือกให้ดังนี้
ทางเลือกที่ 1 พักชำระเงินต้น จ่ายแต่ดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 รอบบัญชีนับจากเดือนที่ลงทะเบียน โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมว่าหากลูกหนี้ได้เข้าร่วมมาตรการพักชำระเงินต้นจ่ายแต่ดอกเบี้ยอยู่ก่อนแล้ว ลูกหนี้ต้องทะเบียนล่วงหน้าไม่เกิน 30 วัน ก่อนมาตรการเดิมจะสิ้นสุดลง
ทางเลือกที่ 2 เปลี่ยนยอดคงค้างหนี้ให้ลูกหนี้เป็นการผ่อนชำระ 48 งวด ในดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 12% ต่อปีโดยธนาคารอาจพิจารณายกเลิกบัตรเครดิตของลูกค้ากรณีเลือกทางเลือกนี้
- ลูกหนี้ที่เป็นลูกหนี้ประเภทบัตรเงินด่วน มีทางเลือกในการชำระหนี้ดังนี้
ทางเลือกที่ 1 พักชำระเงินต้นจ่ายแต่ดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 รอบบัญชี นับจากเดือนที่ลงทะเบียน ซึ่งหากลูกหนี้ได้เข้าร่วมมาตรการพักชำระเงินต้นจ่ายแต่ดอกเบี้ยอยู่ก่อนแล้ว ควนลงทะเบียนล่วงหน้าไม่เกิน 30 วัน ก่อนมาตรการเดิมจะสิ้นสุดลง
ทางเลือกที่ 2 เปลี่ยนยอดหนี้ค้างชำระ เป็นการผ่อนชำระจำนวน 48 งวด ในดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 22% ต่อปี ซึ่งธนาคารอาจยกเลิกบัตรของท่านในทางเลือกนี้
- ลูกหนี้สินที่เป็นลูกหนี้ประเภทเชื่อเงินด่วน มีทางเลือกในการชำระหนี้ดังนี้
ทางเลือกที่ 1 พักชำระเงินต้นจ่ายแต่ดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 รอบบัญชี นับจากเดือนที่ลงทะเบียน ซึ่งหากลูกหนี้ได้เข้าร่วมมาตรการพักชำระเงินต้นจ่ายแต่ดอกเบี้ยอยู่ก่อนแล้วแล้ว ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าไม่เกิน 30 วัน ก่อนมาตรการเดิมจะสิ้นสุดลง
ทางเลือกที่ 2 ลดค่างวดการชำระลง 30% ของค่างวดเดิมเป็นเวลา 6 รอบบัญชี ดอกเบี้ยพิเศษ 22% ต่อปี
- ลูกหนี้ที่เป็นลูกหนี้ประเภทสินเชื่อบ้านกสิกรไทย มีทางเลือกในการชำระหนี้ดังนี้
ทางเลือกที่ 1 จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยและลดอัตรา ดอกเบี้ยลง 0.1% เป็นเวลา 3 เดือน
ทางเลือกที่ 2 ลดค่างวด 50% ของค่างวดเดิม เป็นเวลา 3 เดือน
ทางเลือกที่ 3 พักชำระเงินต้น และดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน
- ลูกหนี้ที่เป็นลูกหนี้ประเภท สินเชื่อเงินด่วน แบบผ่อนระยะยาวเพื่อธุรกิจ มีทางเลือกในการชำระหนี้ดังนี้
ทางเลือกที่ 1 จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน
ทางเลือกที่ 2 ลดยอดผ่อนชำระ 30% จากยอดผ่อนเดิม เป็นเวลา 3 เดือน
ทางเลือกที่ 3 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน
- ลูกหนี้ที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อ ประเภทสินเชื่อรถ มีมาตรการช่วยเหลือดังนี้
1. สินเชื่อรถช่วยได้ ประเภทจำนำทะเบียนรถ ช่วยลดการชำระค่างวด 30% ของค่างวดเดิม ตลอดอายุสัญญา ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
2. สินเชื่อรถ สินเชื่อรถช่วยได้ ประเภทโอนเล่มทะเบียนรถ /สินเชื่อรถ (รถใหม่) /สินเชื่อรถ (รถใช้แล้ว) มีทางเลือกในการชำระหนี้ดังนี้
ทางเลือกที่ 1 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน โดยขยายเวลาผ่อนชำระอีก 3 เดือน
ทางเลือกที่ 2 ลดค่างวดในการผ่อนชำระให้ 50% ของค่างวดเดิม เป็นเวลา 6 เดือน โดยขยายเวลาผ่อนชำระอีก 3 เดือน
สำหรับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่นิวบ์ได้รวบรวมของกสิกรไทยนั้น นับว่าครอบคลุมหลายอย่าง และมีหลายทางเลือกที่จะช่วยเหลือลูกหนี้ ซึ่งทางเลือกแต่ละทางเลือกอาจใช้ไม่ได้กับทุกคน เพื่อน ๆ จะต้องไปติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากธนาคาร เพื่อจะดูว่าแต่ละธนาคารนั้น มีเงื่อนไขที่ซัพพอร์ตเราได้แค่ไหน ช่วยเหลือเราได้อย่างไรบ้าง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดต่อได้ที่นี่
- K CONTACT CENTER ของธนาคารกสิกร
- โทรได้ที่หมายเลข 02-888-8888
5. มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่ปล่อยย่อยสินเชื่อสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของประเทศ ได้มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคาร ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่รอบแรกจนถึงการระบาดในรอบที่ 2 ที่มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นเหมือนเดิม ทั้งนี้จะต้องดูรายละเอียดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เริ่มต้นช่วยเหลือของแต่ละมาตรการให้ดี เพราะจะมีวันที่ไม่เหมือนกัน เราไปดูมาตรการของกรุงศรีอยุธยาเลยดีกว่า
มาตรการที่ 1: ลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำอัตโนมัติ สำหรับลูกค้าทุกราย โดยไม่ต้องลงทะเบียน
- ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้บัตรเครดิต: จากเดิมชำระขั้นต่ำ 10% ลดเหลือ 5% ตาม รอบบัญชี โดยเริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2564
- ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลแบบชำระขั้นต่ำ: จากเดิมชำระ 5% ลดเหลือชำระ 3% ตามรอบบัญชี โดยเริ่มตั้งแต่ 18 มีนาคม 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2564
มาตรการที่ 2 : ปรับลดดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษและขยายเวลาผ่อนชำระ
สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ โดยต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านโมบาย แอพพลิเคชั่น UCHOOSE เท่านั้น
- ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้บัตรเครดิต : ธนาคารจะปรับอัตราดอกเบี้ยเป็นอัตราดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมลดภาระการชำระคืนด้วยการขยายเวลานานสูงสุด 99 เดือน (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยอดคงค้าง)
- ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อบุคคล : ธนาคารจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษเป็น 22% และให้ผ่อนชำระขั้นต่ำเหลือ 3 % (กรณียอดค้างต้องน้อยกว่า 30,000บาท) รวมทั้งขยายเวลาผ่อนชำระให้นานสูงสุด 99 เดือน (โดยยอดคงค้างต้องน้อยกว่า 30,000)
มาตรการที่ 3: ปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือน
มาตรการนี้จะมีการขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระนานสูงสุด 99 เดือน ใช้กับการปรับโครงสร้างหนี้
- ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้บัตรเครดิต : ลดดอกเบี้ยพิเศษ และขยายเวลาผ่อนสูงสุด 99 เดือน (ขึ้นอยู่กับยอดคงค้าง)
- ลูกค้าที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อบุคคล : ลดดอกเบี้ยพิเศษ และขยายเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 99 เดือน (ขึ้นอยู่กับยอดคงค้าง)
สำหรับธนาคารกรุงศรีก็มีมาตรการช่วยเหลือที่ดีเช่นเดียวกันกับธนาคารอื่น ๆ ที่กล่าวไปทั้งหมด ข้อมูลเบื้องต้นอาจเป็นข้อมูลเล็ก ๆ ที่ทำให้เพื่อน ๆ เห็นภาพกันได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามหากอยากใช้สิทธิก็จะศึกษารายละเอียดเงื่อนไขของแต่มาตรการให้ดี
ลงทะเบียนและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- ลงทะเบียนผ่าน https://bit.ly/2XPSOL6
- สอบถามรายละเอียดโทร กรุงศรี Call Center 1572
5 ธนาคารชั้นนำกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่นิวบ์ได้รวบรวมมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันนั้น เป็นการนำเสนอมาตรการทั้งหมดในแบบคร่าว ๆ เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้ทราบว่าธนาคารของตัวเองนั้นมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไรบ้าง และถ้าเพื่อน ๆ สนใจอยากจะทำก็สามารถลงทะเบียนได้ในบางธนาคาร หรือติดต่อสอบถามไปยังธนาคารต่าง ๆ ทั้งเข้าไปสอบถามที่ธนาคารด้วยตัวเอง หรือโทรศัพท์เพื่อสอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน หรือหากเพื่อน ๆ มีข้อสงสัย ยังไม่แน่ใจอะไร อาจลองดูรีวิวต่าง ๆ หรือคอมเมนต์ทางเพจเฟสบุ๊คได้ บางทีเจ้าหน้านี้อาจให้ข้อมูลที่เราสงสัยกับคนอื่นแล้ว สุดท้ายนี้นิวบ์ก็หวังว่ามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ผ่อนหนักให้เป็นเบาจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย และนิวบ์ก็ขอลากันไปก่อน คราวหน้าจะพบบทความดี ๆ อะไรอีกนั้น สามารถติดตามได้ที่ CondoNewb นะคะ